วิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์มือสอง และการดูแลก่อนนำไปใช้

        สำหรับใครที่ชื่นชอบของเก่าหรือนิยมของตกแต่งสไตล์คลาสสิค เฟอร์นิเจอร์มือสองนอกจากเป็นของใช้ที่จำเป็นหรือเป็นองค์ประกอบสำคัญของตัวบ้าน อาคาร สำนักงานต่าง ๆ แล้ว เฟอร์นิเจอร์มือสองยังมีความคลาสสิค เพราะบางอย่างนอกจากความเก่า ยังเป็นสิ่งของที่คงคุณค่า หรือมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นใครที่ชื่นชอบ บทความนี้มีวิธีเลือกซื้อและการดูแลก่อนนำไปใช้ มาแนะนำ ครับ

ภาพประกอบจาก pinteres

เฟอร์นิเจอร์มือสอง คืออะไร

       เฟอร์นิเจอร์มือสอง คือสินค้าหรืออุปกรณ์ของใช้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วซึ่งอาจจะไม่ได้ผ่านการใช้งานมาเพียงครั้งเดียว แต่อาจถูกใช้งานมาแล้วหลายครั้งแต่ยังคงมีสภาพดีสามารถใช้งานได้หรือมีการซ่อมบำรุงให้มีสภาพใหม่พร้อมใช้งานและที่สำคัญมีราคาถูกกว่าสินค้าใหม่หลายเท่าตัวส่วนใหญ่มีทั้งของเก่าภายในประเทศและสินค้าที่มาจากต่างประเทศ

ภาพประกอบจาก pinteres

วิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์มือสอง

        สำหรับสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองนอกจากพิจารณาสภาพของสินค้ามือสองแล้วยังขึ้นอยู่กับประโยชน์ที่นำมาใช้งานความเหมาะสำหรับการตกแต่ง และความชื่นชอบของผู้ซื้อที่แตกต่างกันไป การเลือกซื้อทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. เลือกจากความจำเป็นในการใช้งาน เช่น รูปแบบและขนาดของเฟอร์นิเจอร์ หรือ ผลิตจากวัสดุชนิดใด

2. เลือกจากคุณภาพและสภาพของเฟอร์นิเจอร์มือสอง เช่น มีการซ่อมบำรุงมาแล้วและพร้อมนำมาใช้งานได้ทันทีหรือเลือกซื้อแล้วนำมาซ่อมบำรุงปรับปรุงใหม่เนื่องจากมีความชิ่นชอบในโครงสร้างหรือรูปแบบความเป็นของเก่าที่มีความคลาสสิค

3. เลือกจากรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์และดีไซน์ที่ชื่นชอบ เพราะบางชิ้นเป็นของเก่าที่หายากหรือมีเพียงชิ้นเดียว ทำให้มีความแปลกแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์

4. พิจารณาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองจากยี่ห้อที่เป็นที่นิยมและมีความทันสมัย แม้จะเป็นของเก่าของมือสอง แต่แบรนด์สินค้าหรือยี่ห้อก็ยังมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพการดีไซน์หรือการออกแบบ

5. มีข้อมูลเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์มือสองที่ต้องการ เช่น ราคา แหล่งซื้อขายที่น่าเชื่อถือ ตำหนิที่ควรตรวจสอบ

ภาพประกอบจาก pinteres

การดูแลเฟอร์นิเจอร์มือสอง ก่อนนำไปใช้งาน

      เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งมือสอง มีหลากหลายรูปแบบทั้งของมือสองนำเข้าที่ได้รับความนิยมอย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์มือสองญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์มือสองโรงแรมหรือของเก่าจากร้านรับซื้อและจำหน่ายสินค้ามือสองซึ่งส่วนใหญ่จะแยกเป็นประเภทให้เราสามารถค้นหาแหล่งซื้อขายได้ง่ายการซื้อขายหรือวิธีการได้มาก็แตกต่างกันไป เช่น เลือกซื้อจากแหล่งซื้อขาย การสั่งสินค้าออนไลน์หรือซื้อต่อมาจากคนรู้จัก และเพื่อนที่ทำงาน ทำให้สินค้าที่ได้มาอาจมีสภาพแตกต่างกัน จึงควรดูแลเฟอร์นิเจอร์มือสอง ก่อนนำไปใช้งาน ด้วยวิธีต่อไปนี้

     1. ลอกสติกเกอร์หรือทำความสะอาดอื่น ๆ

เฟอร์นิเจอร์มือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว เช่น โต๊ะสำนักงาน เก้าอี้ ตู้เก็บเอกสาร โต๊ะประชุมโซฟารับแขกขององค์กรต่าง ๆ ซึ่งอาจมีสติกเกอร์ หรือหมายเลขพัสดุสำหรับการจัดทำบัญชีติดไว้ก่อนนำไปใช้งานหรือนำไปตกแต่งบ้าน ตกแต่งห้องทำงานควรทำความสะอาดลอกสติกเกอร์หรือทำความสะอาดอีกครั้งก่อนนำไปใช้งาน

     2. เคาะสนิมหรือขจัดสนิม

กรณีเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งมือสอง ที่วัสดุทำจากเหล็กหรือมีเหล็กเป็นส่วนประกอบเมื่อเป็นของเก่าและใช้มานานแม้จะซ่อมบำรุงมาบ้างแล้ว ก็อาจยังมีริ้วรอยหรือร่องรอยต่าง ๆที่จะเป็นปัญหาต่ออายุการใช้งาน เช่น การเกิดสนิมหรือร่องรอยที่ยังขจัดไม่หมดควรตรวจสอบและขจัดให้หมดไปหรือลงน้ำยา ทาสีใหม่เพื่อป้องกันสนิม

     3. กำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

เฟอร์นิเจอร์เก่าบางชนิดวัสดุอาจซับกลิ่น อย่างเช่น โซฟาบุนวม เบาะ หรือพรม อาจมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ติดมาด้วย เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นควัน กลิ่นตัวสุนัข กลิ่นฉี่แมวหรือแม้กระทั่งกลิ่นอับวิธีทำความสะอาดเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ถ้าเป็นเบาะหรือพรมให้ใช้เบกกิ้งโซดาขัดแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาเบกกิ้งโซดาออก แล้วเช็ดด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชูกลิ่นอับหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงต์ทั้งหลายก็จะหายไป

       4. ตรวจสอบหรือกำจัดแมลง

กรณีเฟอร์นิเจอร์มือสองหรือของตกแต่งมีวัสดุไม้เป็นส่วนประกอบ สิ่งที่ต้องทำควรนำไปใช้ประโยชน์ก็คือการส่องแมลงหรือตรวจสอบว่ามีแมลง ไข่แมลง อุจจาระคราบที่เกิดจากการลอกคราบรวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์หากสัมผัสได้ถึงร่องรอยของตัวเรือดแม้เพียงเล็กน้อย ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดให้ทั่วทุกซอกทุกมุมกรณีเฟอร์นิเจอร์มือสองชิ้นนั้นซักล้างทำความสะอาดได้ ก็ควรทำทันที หรือนำไปตากแดดก่อนนำมาใช้

        5. ขจัดคราบสกปรก

เฟอร์นิเจอร์หรือของใช้มือสองที่เป็นผ้า บุผ้าหรือพรม และมีคราบเป็นด่างดวง จัดการได้โดยสิ่งแรกให้มองหาป้ายที่ติดมากับของชิ้นนั้นเนื่องจากในป้ายจะระบุวิธีการทำความสะอาดและข้อห้ามปฏิบัติเอาไว้ แต่ถ้าไม่มีป้ายก็ให้พิจารณาจากวัสดุที่ใช้เป็นหลัก เช่น ถ้าเป็นงานบุผ้าไหม หนังหรือเส้นใยพิเศษส่งให้บริษัททำความสะอาดพรมจัดการได้เลย แต่ถ้าเป็นผ้าอื่น ๆ นั้นทำความสะอาดเองได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำอุ่น1 แก้ว เติมน้ำส้มสายชู ¼ แก้ว และน้ำยาล้างจานอีก 1 ช้อนโต๊ะคนให้กันแล้วจะใช้ฉีดพ่นหรือใช้ผ้าชุบเพื่อขจัดรอยเปื้อน แล้วใช้แปรงสีฟันขัดเบา ๆจากนั้นใช้ผ้าสะอาดซับคราบเปื้อนที่หลุดลอกออกมาอีกที

ภาพประกอบจาก pinteres

https://www.rockyfurniture.com/article/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87_%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89

I BUILT MY SITE FOR FREE USING